บทความจากนิตยสาร Thai Dental Volume 5 Issue 23 July - September 2012 โดย ทพ.ธงชัย วชิโรจน์ไพศาล
ทันตแพทย์ ในญี่ปุ่นมีอยู่ประมาณ 96,000 คน มีมากกว่าทันตแพทย์ไทยประมาณ 10 เท่า (ทันตแพทย์ไทยมีประมาณ 9,600 คน) ทั้งที่ประชากรญี่ปุ่นมีประมาณ 127 ล้านคน มากกว่าประชากรไทยเพียง 2 เท่าเท่านั้น (ประชากรไทยประมาณ 65 ล้านคน) โดยทันตแพทย์ญี่ปุ่นที่ทำงานด้านสาธารณสุขมีเพียงร้อยละ 0.2 หรือ 240 คนเท่านั้น ส่วนใหญ่กว่าร้อยละ 90 เป็นทันตแพทย์ภาคเอกชน ในขณะที่ไทยมีทันตแพทย์ภาครัฐอยู่มากกว่าร้อยละ 50 ของทันตแพทย์หรือคิดเป็นทันตแพทย์ภาครัฐประมาณ 5,000 คน อาจารย์ทางญี่ปุ่นสนใจตัวเลขนี้มาก เพราะถือว่ามีทันตแพทย์ในภาครัฐมากมายมหาศาล
เพศของทันตแพทย์ก็น่าสนใจเช่นกัน ทันตแพทย์ญี่ปุ่นร้อยละ 78 เป็นเพศชาย ซึ่งตรงกันข้ามกับไทยที่ร้อยละ 70-80 เป็นเพศหญิง การสำรวจสภาวะทันตสุขภาพของประเทศญี่ปุ่นที่ทำโดยภาครัฐ (ที่มีจำนวนทันตแพทย์ภาครัฐน้อยมาก) ใช้กลุ่มตัวอย่างทุกกลุ่มอายุรวมประมาณ 4,000 คน น้อยกว่าจำนวนตัวอย่างของการสำรวจสภาวะทันตสุขภาพของไทยที่มีกลุ่มตัวอย่างรวมมากกว่าเกือบ 3 เท่า
คลินิกทันตกรรม จากจำนวนทันตแพทย์ในญี่ปุ่น 96,000 คน มีคลินิกทันตกรรมกระจายอยู่ทั่วประเทศมากกว่า 70,000 คลินิก โดยทั่วไปจะเป็นคลินิกแบบเป็นเจ้าของคลินิกเองคนเดียว ส่วนในไทยข้อมูลจากกองประกอบโรคศิลป์ เรามีคลินิกทันตกรรม 2,373 แห่งทั่วประเทศ คลินิกประมาณครึ่งหนึ่งอยู่ในกรุงเทพฯ (1,237 แห่ง) และอีกครึ่งหนึ่งอยู่ต่างจังหวัด (1,136 แห่ง)
ค่าบริการทันตกรรม ในญี่ปุ่นไม่ว่าผู้ป่วยจะไปรับบริการที่คลินิกเอกชน โรงพยาบาลของรัฐ โรงพยาบาลเอกชน หรือคลินิกทันตกรรมมหาวิทยาลัยของรัฐหรือเอกชน ไม่ว่าจะรักษากับนิสิตนักศึกษาทันตแพทย์หรือศาสตราจารย์ในมหาวิทยาลัยก็จะจ่ายค่ารักษาทางทันตกรรมในอัตราเดียวกันทั่วประเทศ คือตามระบบประกันสุขภาพแห่งชาติ ผู้ป่วยจะจ่ายค่ารักษาทางทันตกรรมร้อยละ 20-30 ส่วนที่เหลือทางทันตแพทย์จะไปเบิกกับกองทุนทันตกรรมเอง เช่น ถอนฟันกรามแท้ปกติที่มีการเอ็กซเรย์ก่อนทำ จ่ายยาและตรวจดูแผลหลังถอน จะมีค่าใช้จ่าย 3,600 บาท ผู้ป่วยจะจ่าย 720-1,080 บาท ส่วนในประเทศไทยไม่มีค่ารักษากลางทางทันตกรรม ขึ้นกับว่าไปรักษาที่ไหน ของภาครัฐหรือเอกชน คลินิกหรูหราระดับไหนหรือรับบริการกับใคร ทันตแพทย์ทั่วไป ทันตแพทย์เฉพาะทางหรือนิสิตนักศึกษาทันตแพทย์ ราคาค่ารักษาอาจต่างกันมาก เช่น ถอนฟันในไทย (ซึ่งมักไม่มีเอ็กซเรย์และการนัดตรวจดูแผล) จะมีค่าใช้จ่ายตั้งแต่ 100 จนถึง 2,000 บาท หรืออาจไม่มีค่าใช้จ่ายเลยเมื่อมีบัตรทอง
ทันตานามัย ในญี่ปุ่นมีตัวเลขที่เรียนจบมามากกว่า 230,000 คน แต่มีที่ทำงานจริงประมาณเท่าๆกับทันตแพทย์คือ 96,000 คน โดยที่เหตุผลหลักในการไม่ทำงานต่อในอาชีพทันตานามัยคือ การแต่งงานมีครอบครัว ผู้หญิงจะต้องดูแลลูก ดูแลสามี และดูแลบ้านเป็นหลัก ส่วนในไทยไม่มีทันตานามัย มีแต่ทันตาภิบาลซึ่งบทบาทต่างกันกับทันตานามัย โดยไทยเรามีทันตาภิบาลที่กำลังทำงานอยู่ประมาณ 4,000 คน
คำถามที่อาจารย์ญี่ปุ่นสงสัยคือ ทำไมบทบาทการรักษาทางทันตกรรมของทันตแพทย์และทันตาภิบาลไทยถึงซ้อนกัน ผมได้อธิบายถึงปัญหาการกระจายของทันตแพทย์ที่ผ่านมาว่า มีไม่ครบทุกพื้นที่โดยเฉพาะพื้นที่ห่างไกล ที่ต้องอาศัยทันตาภิบาลช่วยให้บริการแก่ประชาชน ซึ่งทันตาภิบาลก็ทำงานรักษาทางทันตกรรมได้ดี และยังทำงานสร้างเสริมสุขภาพช่องปากและการป้องกันโรคอีกด้วย แต่คำถามที่สองอยากให้ชวยกันตอบครับ อาจารย์ญี่ปุ่นสงสัยว่า "ในอนาคตอีกสัก 10 กว่าปี ทันตแพทย์ไทยจะเพิ่มเป็น 2 เท่า การกระจายของทันตแพทย์ดีขึ้น ถึงตอนนั้นถ้าทันตแพทย์กับทันตาภิบาลซ้อนกันอยู่ จะทำงานกันอย่างไร"
ผู้ช่วยทันตแพทย์ ในญี่ปุ่นไม่มีโรงเรียนผู้ช่วยทันตแพทย์ คลินิกทันตกรรมเล็กๆจะไม่มีผู้ช่วยทันตแพทย์ ทันตแพทย์ต้องทำงานเองทั้งหมดโดยใช้เทคโนโลยีช่วย เช่น ตอบแบบสัมภาษณ์ซักประวัติผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์ แต่จะมีทันตานามัยทำหน้าที่ผู้ช่วยทันตแพทย์แทน ในประเทศไทยมีผู้ช่วยทันตแพทย์ในระบบฐานข้อมูลอยู๋ 1,796 คน ซึ่งทางญี่ปุ่นก็สงสัยอีกว่า มีทันตแพทย์กับทันตาภิบาลจำนวนมากรวมกันหมื่นกว่าคน ทำไมมีผู้ช่วยทันตแพทย์อยู่แค่นี้เอง ผมตอบไปว่า ผู้ช่วยทันตแพทย์ที่มีตัวเลขอยู่ เป็นผู้ช่วยทันตแพทย์ในภาครัฐ ส่วนในภาคเอกชนไม่มีฐานข้อมูลและมักจะไม่ได้เป็นผู้ช่วยทันตแพทย์ที่เรียนตามระบบ เป็นการฝึกสอนกันเอง
ช่างทันตกรรม ในญี่ปุ่นช่างทันตกรรมจะต้องเรียนในระบบอย่างน้อย 2 ปี มีหลักสูตรช่างทันตกรรมที่เปิดเป็น 4 ปี เมื่อเรียนจบจะต้องมีการสอบ license เพื่อรับรองให้ทำงานได้ ปัจจุบันมีช่างทันตกรรมในระบบ 35,000 คน ร้อยละ 68 ของช่างทันตกรรมจะทำงานในบริษัทแลปทันตกรรมของเอกชน ส่วนในประเทศไทย ช่างทันตกรรมที่สำรวจได้จากกระทรวงสาธารณสุขมีอยู่ 96 คน ซึ่งผมไม่แน่ใจว่าตัวเลขนี้เอ็นช่างทันตกรรมที่ทำงานอยู่ที่ใด ต้องอธิบายให้ทางญี่ปุ่นฟังว่า ช่างทันตกรรมของไทยไม่ต้องสอบ license ไม่มีการควบคุมดูแลจากหน่วยงานใดๆ และส่วนใหญ่จะเป็นการฝึกอบรมกันเอง
ค่าใช้จ่ายในการเรียนทันตแพทย์ ถ้าเป็นโรงเรียนทันตแพทย์ของรัฐในญี่ปุ่น ค่าเล่าเรียน(ค่าลงะเบียนเรียน)ที่นิสิตนักศึกษาจะต้องจ่าย ตลอดหลักสูตร 6 ปีจะอยู่ที่ประมาณ 1 ล้านบาท ส่วนในโรงเรียนทันตแพทย์เอกชน ค่าใช้จ่ายในการเรียนจะเป็น 10 เท่าของโรงเรียนทันตแพทย์ภาครัฐ คือประมาณ 10 ล้าน ในประเทศไทยถ้าเป็นที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ค่าลงทะเบียนเรียนของนิสิตอยู่ที่เทอมละ 18,000 บาท หรือรวมตลอดหลักสูตรจะเป็น 200,000 กว่าบาท ส่วนโรงเรียนทันตแพทย์เอกชนในไทยอยู่ที่ประมาณ 4.5 ล้านบาทตลอดหลักสูตร
|