เหงือกร่นเป็นภาวะที่เหงือกได้ร่นลงไปหารากฟัน ทำให้เนื้อฟันสัมผัสเชื้อแบคทีเรียได้มากขึ้น เกิดคราบหินปูน และมีการเจริญเติบโตของเชื้อโรค หากไม่รักษาก็จะมีการทำลายของกระดูกทำให้ฟันไม่แข็งแรง และหลุดร่วงไป
เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นเหงือกร่น
โดยทั่วไปเหงือกร่นจะเป็นภาวะที่ค่อยๆเป็นโดยที่ไม่มีอาการ เราอาจจะรู้ว่าเหงือกร่นโดยดูจาก
- ส่องกระจกดูจะเห็นว่าฟันจะยาวกว่าปกติ และจะเห็นร่องฟันของฟันสองสามซี่ที่ติดกัน(ปกติจะไม่เห็น)
- เวลาแปรงฟัน หรือดื่มของร้อนหรือเย็นจะเกิดเสียวฟัน
หากเกิดเหงือกร่นอย่าละเลยรีบหาสาเหตุและแก้ไข
อาการเหงือกร่นเกิดได้จากหลายสาเหตุ
- จากการแปรงฟันผิดวิธี ถ้ามาจากการแปรงฟันผิดวิธี คือ ถูไปถูมาในแนวนอน ก็จะทำให้เกิดเหงือกร่นและคอฟันสึกร่วมด้วย (อาจตามมาด้วยอาการเสียวฟัน) ปกติเหงือกที่ร่นจากการแปรงฟันแบบนี้มักเป็นบริเวณฟันเขี้ยว ฟันกรามน้อย และฟันกรามทางด้านกระพุ้งแก้มที่มีการซ้อนทับกันของการถูซ้ำๆ บางรายมีเหงือกและกระดูกบางอยู่แล้วก็ยิ่งร่นได้มาก หากเกิดเพราะสาเหตุนี้ ควรเปลี่ยนวิธีการแปรงฟันเป็นการขยับสั้นๆ อยู่กับที่แล้วปัดขึ้น (หรือลง) หรือใช้วิธีฟอกเป็นวงกลมเล็กๆ ก็จะทำให้การร่นหยุดลงได้
- จากโรคปริทันต์อักเสบ อันเป็นโรคที่มีการอักเสบของเหงือก และมีการทำลายอวัยวะที่อยู่รอบตัวฟัน เช่น กระดูกรอบรากฟัน ก็จะทำให้เกิดเหงือกร่นตามมา เพราะเมื่อกระดูกรอบฟันถูกทำลายจนลดระดับลง เหงือกก็จะร่นตามกระดูกไปด้วย (ตามไปหุ้มกระดูกไว้)
- การดูแลฟันไม่ถูกต้อง การแปรงฟันรวมทั้งการขัดไหม และอาจจะไม่ได้พบทันตแพทย์ ทำให้เกิดครบหินปูนซึ่งจะทำให้เกิดเหงือกอักเสบ และเกิดเหงือกร่น
- พันธุกรรม บางท่านอาจจะมีแนวโน้มที่จะเกิดเหงือกร่น หรือเกิดโรคเหงือก ดังนั้นต้องดูแลฟันให้ดี
- จากการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมน วัยรุ่น การตั้งครรภ์ วัยทอง วัยเหล่านี้มีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนทำให้ฟันเสี่ยงต่อการเป็นเหงือกร่น
- การสูบบุหรี่ การสูบบุหรี่จะทำให้เกิดคราบที่ฟัน และเกิดเหงือกอักเสบได้ง่าย
- การนอนกัดฟัน การนอนกัดฟันมากจะเป็นสาเหตุให้เหงือกร่น
การรักษา
การรักษาต้องรักษาที่ต้นเหตุ เช่นการรักษาโรคปริทันต์อักเสบนั้นจากทันตแพทย์ด้วยการขูดหินน้ำลายและเกลารากฟัน เพื่อกำจัดคราบจุลินทรีย์และหินน้ำลายที่เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของเชื้อโรค ในรายที่เป็นมาก การขูดหินปูนหรือการเกลารากฟันไม่สามารถทำให้หาย อาจจะจำเป็นต้องใช้วิธีการผ่าตัดแก้ไข
การป้องกัน
- การป้องกันดีที่สุดคือการแปรงฟันให้ถูกวิธี การใช้ไหมขัดฟัน และการไปพบทันตแพทย์อย่างสม่ำเสมอ
- หยุดสูบบุหรี่
- รับประทานอาหารสุขภาพ หลีกเลี่ยงน้ำตาล
ขอขอบคุณแหล่งแบ่งปันและข้อมูลจาก
|