บางครั้งจะสังเกตเห็นได้ว่า เมื่อใช้แปรงสีฟันผ่านไปได้ระยะหนึ่ง อาจจะเกิดคราบสีเหลืองหรือสีดำตามซอกขนแปรง ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดคราบเหล่านี้ไม่ได้เกิดจากความผิดปกติของยาสีฟันหรือ แปรงสีฟันที่ใช้อยู่ แต่นั่นเป็นสัญญาณที่บอกให้รู้ว่า ถึงกำหนดเวลาที่จะต้องเปลี่ยนแปรงสีฟัน หรือทำความสะอาดแปรงสีฟันได้ไม่สะอาดเพียงพอและไม่ได้ผึ่งให้แห้ง ยาสีฟันและเศษอาหารที่เหลือตกค้างอยู่บนแปรงสีฟันจะกลายเป็นแหล่งอาหารของ เชื้อโรคที่สะสมอยู่บนแปรงสีฟันประกอบกับความชื้นของขนแปรงที่เปียก ทำให้เชื้อโรคเจริญเติบโตได้ง่าย ดังนั้น นอกจากการเลือกยาสีฟันที่มีคุณภาพและปลอดภัยแล้ว การดูแลทำความสะอาดแปรงสีฟันอย่างถูกต้องก็เป็นเรื่องสำคัญที่ควรให้ ความใส่ใจ ควรล้างแปรงสีฟันให้สะอาดและผึ่งให้แห้งทุกครั้ง เพื่อสุขภาพที่ดีของครอบครัว เคล็ดไม่ลับสำหรับการดูแลความสะอาดแปรงสีฟัน
1.หลังจากใช้แปรงสีฟันทำความสะอาดฟันแล้ว ควรล้างออกด้วยน้ำสะอาดทันที ไม่ให้เหลือเศษอาหารหรือยาสีฟันตกค้างบนแปรงสีฟัน แล้วสะบัดน้ำออกให้หมด
2.ควรทำให้แปรงสีฟันแห้งอยู่เสมอ โดยเก็บในที่ที่อากาศถ่ายเทสะดวก มีแสงแดดเข้าถึง ไม่ควรเก็บในที่อับชื้น
3.ไม่ควรเก็บแปรงสีฟันหลายๆอันรวมกันเพราะจะทำให้เกิดการปนเปื้อนของเชื้อ โรค ควรเก็บแปรงสีฟันแต่ละอันแยกกันบนที่ที่เสียบแปรงสีฟัน และหันหัวแปรงขึ้นด้านบน
4.ถ้าจำเป็นต้องเก็บแปรงสีฟันในห้องน้ำ ควรเลือกบริเวณที่ห่างจากโถชักโครกและปิดฝาชักโครกทุกครั้งขณะกดน้ำ เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อโรคกระจายออกมา
5.ควรทำการฆ่าเชื้อบนแปรงสีฟันโดยการลวกในน้ำร้อนเป็นเวลาสั้นๆสัปดาห์ละ 1 ครั้ง
6.ควรล้างที่เสียบแปรงสีฟันให้สะอาดอยู่เสมอ
7.เพื่อเพิ่มความมั่นใจในความสะอาด โดยเฉพาะแปรงสีฟันของเด็ก ก่อนใช้แปรงสีฟันทุกครั้งควรล้างแปรงสีฟันด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดช่องปาก หรือน้ำเกลือ และหลังจากใช้แล้ว ควรล้างแปรงสีฟันครั้งสุดท้ายด้วยน้ำกรองสะอาดหรือน้ำต้มสุก
8.ควรเปลี่ยนแปรงสีฟันอย่างน้อยทุกๆ 2-3 เดือน
9.เมื่อเป็นหวัดหรือไม่สบาย หลังจากหายแล้ว ควรเปลี่ยนแปรงสีฟันใหม่ทุกครั้ง เพื่อไม่ให้ติดเชื้อโรคเดิมที่เหลือบนแปรงสีฟันได้อีก
|